สบู่ช่วยรักษาความสะอาดให้ร่างกาย และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การทำสบู่ใช้เอง ภายในบ้าน สามารถเลือกส่วนผสมสมุนไพร ต่างๆได้ตามต้องการ ไม่มีสารเคมีส่วนเกิน ใช้ ซักผ้า และล้างจานได้ แถมยังประหยัด เงินได้อีกต่างหาก
ส่วนผสมการทำสบู่สมุนไพร
1. น้ำมันพืช 500 กรัม
2. โซดาไฟ 65 กรัม
3. น้ำ 150 กรัม
4. หัวน้ำหอม 1 ช้อนชา ( เลือกกลิ่นตามต้องการ )
5. ผงขมิ้น หรือ สมุนไพรอื่น ๆ ตามต้องการ 3 ช้อนชา
ขั้นตอนในการทำสบู่ ละลายโซดาไฟ 65 กรัม ลงในน้ำ 150 กรัม จากนั้นค่อยๆ เทสารละลาย โซดาไฟใส่ลงในน้ำมันพืช 500 กรัม โซดาไฟจะทำปฏิกิริยากับน้ำมันพืช กลายเป็นสบู่จนหมด ใช้ไม้พายกวนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงเติม ผงขมิ้น และกลิ่นน้ำหอม กวนต่อจนเนื้อสบู่เข้ากันดีแล้ว เทส่วนผสมลงในแบบ พิมพ์ปล่อยไว้ 1 - 2 วัน สบู่จะแข็งตัวสามารถแกะออกจากแบบได้ จากนั้นเก็บบ่มไว้อีก 2-4 สัปดาห์จึงนำไปใช้ได้ สบู่ที่ดีเนื้อสบู่ควรจะแข็ง มีสีตามธรรมชาติของส่วนผสม สะอาด กลิ่นดี สามารถขูดเนื้อสบู่ออกเป็นแผ่นโค้ง ๆ ได้ไม่มันหรือลื่นจนเกินไป สบู่ที่ได้จากการผลิตในครัวเรือนแบบนี้นอกจากจะได้คุณค่าของสมุนไพรแล้ว ยังอุดมไปด้วยกลีเซอรอล ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของร่างกาย
ข้อเท็จจริงในเรื่องของโซดาไฟ บางคนพอเห็นว่าในสูตรมีโซดาไฟ ก็ตั้งท่ากลัวกันไว้ก่อน เพราะชื่อมันออกจะดุดัน โซดาไฟมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมไฮดรอกไซด์ มีสูตรเคมี คือNaOH มีฤทธิ์เป็นเบส(ด่าง) ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเกร็ดสีขาวแต่ผู้ผลิตบางรายอาจทำเป็นเม็ดหรือเป็นผงก็ได้ เมื่อเทสารละลายโซดาไฟลงในน้ำมันหรือไขมัน จะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า สะปอนนิฟิเคชัน (Saponification) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสไขมันและน้ำมันด้วยเบส เกิดเกลือของไขมัน (สบู่)กับกลีเซอรอล ดังนี้
โดยที่ R คือ หมู่ไฮโดรคาร์บอน ตามแต่ชนิดของน้ำมันที่นำมาใช้ ดังนั้นจึงอาจเขียนโครงสร้างของสบู่ได้ดังนี้
และจะเห็นได้ว่า หลังการทำปฏิกิริยาเสร็จ จะไม่มีโซดาไฟหลงเหลืออยู่ในผลิตภัณฑ์สบู่ ในทางอุตสาหกรรม กลีเซอรอลซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการทำสบู่จะถูกแยกออกจากสบู่ และนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเป็นสารให้ความชุ่มชื้น ใช้เป็นสารให้รสหวานในอาหารหรือยา รวมทั้งใช้เป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมพลาสติก
ข้อควรระวังในการใช้โซดาไฟ !
1.โซดาไฟมีพิษกัดผิวหนังและทำให้เกิดแผลได้ ไม่ควรให้ถูกผิวหนัง ถ้าถูกต้องรีบล้างทันทีด้วน้ำ เปล่าแล้วล้างด้วยน้ำส้มอีกครั้ง
2.ถ้ากลืนโซดาไฟลงไป ให้รีบดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาว หรือมะกรูดตามลงไปให้มาก ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์
3. การละลายโซดาไฟ ให้ค่อยๆใส่โซดาไฟลงในน้ำ ห้ามใส่น้ำลงในโซดาไฟเด็ดขาด!
4.เก็บโซดาไฟ ให้พ้นมือเด็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น